เสน่ห์ของโตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower)
สำหรับคนที่ชื่นชอบประเทศญี่ปุ่น คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) แน่ เพราะคนทั่วโลกต่างยากให้โตเกียวทาวเวอร์เป็นสัญญลักษณ์ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน ในฐานะที่เป็นสิ่งก่อสร้างซึ่งสูงที่สุดของญี่ปุ่นเป็นเวลาหลายปี ถึงแม้ว่าตอนนี้สิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นถูกแย่งตำแหน่งไปโดยหอคอยสกายทรี (Sky Tree) เมื่อช่วงต้นปี 2012 แต่โตเกียวทาวเวอร์ก็ยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวผู้หลงไหลญี่ปุ่นยังนิยมกันอย่างไม่เสื่อมคลาย
โตเกียวทาวเวอร์ เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 กันยายน 1957 สร้างเสร็จและเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 1958 โดยตั้งใจให้เป็นหอคอยหลักสำหรับแพร่กระจายคลื่นสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์ไปทั่วกรุงโตเกียวและจังหวัดใกล้เคียง โตเกียวทาวเวอร์ได้ทำหน้าที่นี้จนถึงต้นปี 2012 จากนั้นงานแพร่กระจายคลื่นสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์ทั้งหมดก็ถูกย้ายไปที่หอคอยสกายทรี (Sky Tree) ซึ่งสูงที่สุดแทน
โตเกียวทาวเวอร์มีความสูงทั้งหมด 333 เมตร (ถ้าวัดให้เป๊ะๆ ก็คือ 332.6 ม.) ได้ครองตำแหน่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นอยู่หลายปี ก่อนที่จะมีการสร้างโตเกียวทาวเวอร์ ในญี่ปุ่นมักจะสร้างเสาหรือหอคอยสำหรับแพร่กระจายสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์ที่มีความสูงประมาณ 153 - 177 เมตรไว้หลายแห่ง ด้วยความสูงนี้ทำให้มีรัศมีแพร่กระจายสัญญาณได้เพียง 70 กม และเนื่องจากแต่เสาอยู่ในตำแหน่งที่ต่างกัน ทำให้การเปลี่ยนดูช่องทีวีในแต่ละครั้ง ผู้ชมต้องคอยปรับเปลี่ยนตำแหน่งของเสาอากาศทุกครั้ง.เพื่อให้หันไปตรงกับทิศของเสากระจายสัญญาณของแต่ละช่อง จึงมีความคิดว่าควรสร้างหอคอยทีมีความสูงมากกว่า 200 เมตร และเป็นศูนย์รวมเครื่องแพร่กระจายสัญญาณของทุกช่อง ทำให้การตั้งเสาอากาศสามารถทำได้ง่าย และสามารถเปลี่ยนช่องได้โดยที่ไม่ต้องปรับทิศทางของเสาอากาศ
ทางการของญี่ปุ่นเห็นด้วยกับความคิดนี้ จึงได้มีโครงการที่จะสร้างหอคอยกระจายสัญญาณที่มีความสูงมากกว่า 300 เมตร และเมื่อคิดจะหอคอยสูงสร้างแล้ว ก็ควรสร้างให้มีความสูงมากกว่าหอไอเฟล เพื่อจะได้เป็นหอคอยที่มีความสูงที่สุดในโลกด้วย และควรมีการสร้างจุดชมวิวบนหอคอยเหมือนหอไอเฟล ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้มีรายได้จากนักท่องเที่ยวมากพอจนถึงจุดคุ้มทุนภายใน 10 ปี
เรื่องความสูงของโตเกียวทาวเวอร์นั้น ตอนแรกมีความตั้งใจจะสร้างให้สูงถึง 380 เมตร แต่ห่วงว่าความแรงของลมในความสูงระดับนั้นจะทำให้เสาแพร่สัญญาณเกิดการสั่นไหว ทำให้กระจายสัญญาณได้ไม่ดี จึงได้ลดความสูงลง จนสุดท้ายสรุปกันที่ 333 เมตร ซึ่งจะสูงว่าหอไอเฟลซึ่งมีความสูง 312 เมตร และจะสร้างจุดชมวิว 2 จุดที่ความสูง 150 เมตรและ 250 เมตร
ในการตั้งชื่อหอคอยแห่งใหม่นี้ ก่อนที่โตเกียวทาวเวอร์จะสร้างเสร็จ ทางการญี่ปุ่นได้ขอให้ประชาชนช่วยรวบรวมส่งชื่อที่เหมาะสมผ่านทางไปรณียบัตร ซึ่งมีคนส่งไปรณียาบัตรเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นมากถึง 86,269 ฉบับ ซึ่งชื่อที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุด 3 อันดับแรกคือ
อันดับ 1 โชวะโท (Showa Toh - 昭和塔) แปลว่า หอคอยของรัชกาลโชวะ
อันดับ 2 นิฮอนโท (Nohon Toh - .日本塔 แปลว่า หอคอยญี่ปุ่น
อันดับ 3 เฮวะโท (Heiwa Toh - 平和塔) แปลว่า หอคอยแห่งสันติภาพ
แต่ในที่สุดคณะกรรมการตัดสินได้เลือกชื่อ โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower - 東京タワー) เป็นชื่อของหอคอยใหม่นี้ในวันที่ 9 ตุลาคม 1958 ซึ่งชื่อ โตเกียวทาวเวอร์ นั้นอยู่ในอันดับที่ 13 จากทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าเป็นชื่อที่ตรงและเหมาะสมกับหอคอยนี้ที่สุดแล้ว ซึ่งคณะกรรมการส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย
ปัจจุบัน แม้โตเกียวทาวเวอร์จะกลายเป็นอาคารที่มีความสูงระดับ 2 ของญี่ปุ่นไปแล้ว แต่ความนิยมของโตเกียวทาวเวอร์ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง มีการจัดกิจกรรมเพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้ไปเข้าชมอย่างสม่ำเสมอ
ภายในอาคารที่อยู่ใต้หอคอยก็มีสิ่งน่าสนใจมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ (Tokyo Tower Aquarium) ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร หอศิลปะ Tokyo Tower Gallery และที่เพิ่งเปิดใหม่ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมาคือ โตเกียววันพีซทาวเวอร์ (Tokyo One Piece Tower) ซึ่งเชื่อว่าเด็กๆ และคนที่ชอบการ์ตูนเรื่อง One Piece คงไม่พลาดแน่นอน ดูรายละเอียดของ Tokyo One Piece Tower ได้ที่นี่ http://onepiecetower.tokyo/en/
ค่าเข้าชมจุดชมวิวของโตเกียวทาวเวอร์ ที่ความสูง 150 เมตร และ 250 เมตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น