(บรรยากาศที่งดงามพร้อมด้วยต้นซากุระ)
แต่ท่ามกลางรถไฟที่ทันสมัยมากมายของญี่ปุ่น หลายคนคงไม่รู้ว่าแม้แต่ในโตเกียวก็ยังมีระบบขนส่งแบบเก่าอยู่เหมือนกัน ซึ่งก็คือ "รถราง" นั่นเอง
(รถรางขณะที่แล่นอยู่บนถนนเพื่อเตรียมเข้าเทียบชานชลาที่จุดจอด)
หลายคนคงแปลกใจว่าที่ญี่ปุ่นยังมีรถรางเหลือให้วิ่งกันอยู่อีกหรือ โดยเฉพาะในโตเกียว เห็นแต่รถไฟ รถไฟใต้ดิน และรถไฟชิ้นกันเซนวิ่งกันเต็มไปหมด แต่กลับไม่ได้เห็นรถรางเลย อันที่จริงโตเกียวยังมีรถรางอยู่ แถมยังเป็นรถรางสายเดียวที่ยังเหลือซะด้วย ลองมาทำความรู้จักรถรางสายนี้กันดูดีกว่า
(ผู้คนมายืนรอขึ้นรถรางที่จุดจอดระหว่างทาง)
(ชานชลาของจุดจอดที่วาเซดะ - Waseda - 早稲田)
แต่หลังจากที่ทางกรุงโตเกียวได้มีการสร้างระบบรถเมล์ และรถไฟใต้ดินเพิ่มขึ้นมา มีการขยายถนนเพื่อเพิ่มพื้นผิวจราจรมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ระบบรถรางถูกทยอยยกเลิกไปทีละสายสองสาย เฉพาะช่วงปี 1967 - 1972 รถรางถูกยกเลิกไปเป็นระยะทางยาวถึง 181 กม.
(รถรางตอนเข้าจอดเทียบชานชลา)
(เส้นทางและรายชื่อจุดจอดทั้ง 30 แห่งของรถรางสาย Arakawa)
สำหรับจุดเริ่มต้นที่ วาเซดะ (Waseda - 早稲田) จะอยู่ใกล้กับประตูใหญ่ของมหาวิทยาลัยวาเซดะ (Waseda University - 早稲田大学)
(จุดจอดรถที่ วาเซดะ Waseda - 早稲田 ซึ่งถือว่าเป็นต้นทาง อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยวาเซดะ)
(พื้นที่ของรถรางสาย Arakawa - 荒川線 ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่พิเศษ ไม่ทับซ้อนกับถนน)
นอกจากนี้ยังมีตั๋วแบบ 1 วันขายด้วยในราคา 400 เยน (สำหรับผู้ใหญ่) และ 200 เยน (สำหรับเด็ก) ซึ่งเป็นราคาที่คุ้มค่ามาก เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่อยากแวะดูหลายๆ แห่งในวันเดียว
(ที่จอดรถต้นทางที่ วาเซดะ Waseda - 早稲田) อยู่ใกล้กับประตูใหญ่ของมหาวิทยาลัยวาเซดะ
ภาพวาดแสดงเส้นทางเดินรถพร้อมจุดจอดรถของรถรางสาย Arakawa - 荒川線
ในวันที่ 1 ตุลาคม 1978 ได้มีการเปลี่ยนระบบการทำงานใหม่ โดยให้มีพนักงานดูแลเพียง 1 คนต่อ 1 ขบวน ซึ่งมีเพียง 1 โบกี้ โดยจะทำหน้าที่เป็นทั้งพนักงานขับรถ เก็บเงิน ขายตั๋ว และอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ แก่ผู้โดยสารทั้งหมด ปกติในการขึ้นรถราง จะขึ้นทางประตูหน้า เพื่อจ่ายค่าโดยสารก่อน เมื่อถึงที่หมายก็จะกดกริ่งแจ้งให้พนักงานขับรถทราบ แล้วลงจากรถรางทางประตูหลัง
(พบกับบรรยากาศสวยๆ 2 ข้างทาง)
ภายในชานชาลาของจุดจอดที่วาเซดะ (Waseda - 早稲田)
(รายชื่อป้ายจอดของรถรางสาย Arakawa ทั้ง 30 แห่ง)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น